วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นางสาวิตรี

 

            สาวิตรี นั้นเป็นบุตรของมหาราชอัชวาปตี มหารานีมัลวี ซึ่งมหาราชอัชวาปตีนั้น ไม่มีบุตรชายเลย จึงได้ทำพิธีภาวนาต่อพระแม่มาเตสวาตี (พระแม่กายาตรี) มาถึง 16 ปี จนพระแม่มาประทานพรให้ แต่เนื่องจากในโชคชะตาของมหาราชนั้น ไม่ได้มีพรของบุตรชายเลย พระแม่จึงได้มอบบุตรสาวที่เก่งกาจสามารถ มีสติปัญญา และรูปโฉมอันงดงามให้ เทวฤษีนารัทมุนีได้ตังชื่อให้เด็กน้อยว่า สาวิตรี สาวิตรีเป็นคนที่ฉลาดและงดงามมาก จนไม่มีชายใดกล้ามาสู่ขอ มหาราชอัชวาปตีจึงได้มอบหมายให้นางออกหาสามีเอง

            สาวิตรี ได้เดินทางไปหลายเมืองจนมาถึงเมืองของมหาราชจันทราเซน มาดันราชกุมารของมหาราชนั้นเป็นคนที่เลวร้ายมาก มักมากในกามคุณและไม่ให้เกียรติสตรีเลย เขาได้เข้ามาเพื่อที่หมายจะย่ำยี แต่สาวิตรีได้หลอกมาดันแล้วทำพิธีผูกรัคชิด เพื่อให้มาดันกลายเป็นพี่ชายของตน มาดันได้กล่าวคำอาฆาตกับสาวิตรีไว้ สาวิตรีจึงหมดหวังที่จะหาสามีตามที่พ่อและแม่ได้มอบหมายไว้ นางจึงออกเดินเพื่อหย่อนอารมณ์ พลันก็ได้ยินเสียงตัดไม้ นางจึงแอบเข้าไปดูก็พบกับชายรูปงามกำลังต่อเถียงกับนางยักษ์ที่เข้ามาพัวพัน โดยที่นางยักษ์กล่าวชักชวนให้ชายผู้นั้นมาร่วมหลับนอนด้วย ชายคนนั้นจึงกล่าวกับนางยักษ์ว่า ความอายเป็นคุณสมบัติของสตรี หญิงใดที่ไม่มีคุณสมบัตินี้ก็สมควรที่จะตายไป นางยักษ์จึงกลับไปด้วยความผิดหวัง แต่คำนี้เองที่ทำให้สาวิตรีหลงใหล

              ใน ขณะที่นางซุ่มอยู่ในพุ่มไม้นั้นพลันก็ปรากฏเสือตัวใหญ่ไล่กวดนาง ชายหนุ่มจึงได้เข้ามาช่วยนางโดยที่ขว้างขวานเข้าที่คอเสือ และในขณะเดียวกัน มาดันก็เข้ามาแล้วยิงธนูเข้าที่หลังเสือ เมื่อชายหนุ่มเข้ามาหาสาวิตรี มาดันก็ได้เข้ามากล่าวคำหยาบช้าต่อสาวิตรี ชายหนุ่มจึงได้เข้าต่อสู้เพื่อปกป้องสาวิตรีไว้ สาวิตรีตกหลุมรักชายหนุ่มมากขึ้น มหามนตรีสุเกรชีเข้ามาหลังจากที่เขาได้ไล่มาดันไปแล้ว เขาแนะนำตัวเองว่า ชื่อพระสัตยวานเป็นบุตรของอดีตมหาราชจันทราเซนซึ่งตาบอด มหามนตรีสุเกรชีจึงได้เข้าไปสู่ขอสัตตีอาวารกับอดีตมหาราช แต่มหาราชไม่ยอมรับในเรื่องนี้ สาวิตรีจึงได้เข้าไปกล่าวกับอดีตมหาราชเอง ทำให้ทั้งมหาราชและมเหสียินยอม

               ใน ขณะที่งานมงคลจะเกิดขึ้นนั้น พระนารทพรหมฤษีก็ได้เดินทางมาเพื่ออวยพร แต่ระหว่างทางได้พบกับพระยมราช พระยมราชจึงได้แจ้งว่า พระสัตยวานนั้นเหลืออีกเพียง 1 ปี เมื่อสาวิตรีรู้ข่าวจากพระฤษีนั้น นางก็มั่นคงในคำพูดจึงได้เข้าพิธีสมรสกับสัตตีอาวาร โดยที่ไม่ฟังคำค้านจากบิดามารดาเลย นางได้เข้าไปภาวนาต่อพระแม่มาเตสวตี พระแม่มาเตสวตีจึงได้แนะนำนางให้ถือศีลอดอาหารอย่างเคร่งครัดในสามวันก่อน ครบกำหนดและในวันที่สี่ให้ภาวนา เพื่อขอพรพระเจ้าให้กับพระสัตยวาน นางจึงทำตามจนครบกำหนดโดยที่หน้าที่ปรนิบัตพ่อแม่และสามีไม่บกพร่องเลย และในสี่วันสุดท้ายนั้น นางได้เริ่มถือศีลอาคานโซบาวาตี และในขณะที่นางถือศีลอยู่นั้น ยมราชได้มาก่อกวนนางทุกทางแต่ไม่สำเร็จ และในวันที่สี่นั้น นั้นนางไม่ยอมทานอาหารเลย จนกระทั่งวันหนึ่งพระสัตยวานจะเสด็จป่าเพื่อหาอาหาร นางสาวิตรีจึงขอตามพระสวามีไปด้วย ขณะที่เก็บผลไม้อยู่นั้น ก็ถึงกาลที่พระสัตยวานจะสิ้นพระชนม์ เมื่อพระสัตยวานสิ้นพระชนม์ นางสาวิตรีก็เห็นพระยมซึ่งมารับวิญญาณของพระสัตยวาน

นาง จึงได้ออกติดตามไปจนถึงแม่น้ำเวตาล ยมราชได้บอกว่า นางข้ามไม่ได้เพราะภพหน้าคือภพของคนตาย สาวิตรีจึงขอพรจากพระแม่กามเทนุให้พาข้ามไป ยมราช เห็นความตั้งใจของนางจึงได้กล่าวเตือนอีกครั้งเพราะข้างหน้าคือเทวโลก ที่ซึ่งมนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ ยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี นางจึงขอให้ดวงตาของพ่อและแม่สามีมองเห็นได้อีกครั้ง ยมราชจึงได้ให้พรดังนั้นแล้วเดินทางต่อไป
             นางสาวิตรีก็ยังดั้งด้นตามยมราชไปโดยขอพรกับพระแม่กาลี พระแม่กาลีจึงได้ให้ตรีศูลพาข้ามไป ยมราช เห็นดังนั้น จึงได้บอกกับสาวิตรีว่าข้างหน้าเป็นโลกสวรรค์ซึ่งจะไปได้เฉพาะเทวดาเท่านั้น ให้นางสาวิตรีกลับไปแต่สาวิตรีไม่ยอม ยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี สาวิตรีจึงขอบันลังค์ของพ่อแม่สามีคืน ยมราชให้พรแล้วเดินทางต่อ
นางสาวิตรียังดั้งด้นติดตามยมราชต่อไป นางขอพรกับพระแม่ลักษมี พระแม่ลักษมีจึงได้ให้ดอกบัวพาสาวิตรีข้ามโลกสวรรค์ไป และ เมื่อยมราชเห็นดังนั้นจึงได้บอกสาวิตรีว่า ข้างหน้าเป็นป่าสวรรค์และเป็นวรรณะโลกที่ผู้คนบูชาที่ซึ่งแม้แต่เทวดาถ้าไม่ ได้รับอนุญาตก็เข้าไปไม่ได้ ให้นางสาวิตรีกลับไป แต่สาวิตรีไม่ยอมยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี นางจึงขอให้พ่อและแม่ที่ไม่มีลูกชายเลยของนางมีลูก 100 คนเพื่อความรุ่งเรือง ยมราชให้พรแล้วเดินทางต่อไป
นางสาวิตรีเดินทางตามยมราชต่อ โดยขอพรกับพระแม่สุรัสวดี พระแม่สุรัสวตีจึงได้มองหงส์ของพระแม่ให้พาสาวิตรีไป เมื่อ ถึงยมโลก ยมราชได้บอกกับสาวิตรีว่า ที่นี่คือยมโลก ไม่มีใครเข้าไปได้นอกจากยมราชจะอนุญาต แต่สาวิตรีไม่ยอมฟังได้เดินตามยมราชเข้าไป ยมราชจึงหันมาบอกกับสาวิตรีว่าลูกรักอย่าได้ดื้อไปเลยกลับไปเถอะ สาวิตรีบอกว่าเมื่อท่านเรียกข้าว่าลูกท่านก็เหมือนพ่อ แล้วพ่อจะไม่ให้ลูกเข้าบ้านหรือ ยมราชจึงต่อรองกับสาวิตรี ว่าเจ้าขอพรได้ 1 ข้อ เว้นแต่ชีวิตของสามี แล้วกลับไป สาวิตรีจึงขอมีบุตรถึง 100 คน ยมราชได้ให้พรดังที่ขอ แต่สาวิตรีไม่ยอมกลับ ยมราชจึงหันมาดุสาวิตรี นางสาวิตรีเลยได้กล่าวว่าหากท่านให้พรข้ามีลูกถึง100คน แต่หากข้าปราศจากสามีแล้ว แล้วข้าจะตั้งท้องได้อย่างไร สุดท้ายยมราชเลยยอมคืนวิญญานพระยาสัตยวานคืนให้ และได้ครองคู่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น